วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กุญแจไขรหัสความงาม การใช้“ศาสตร์ผสานศิลป์”



กุญแจไขรหัสความงาม
จากธุรกิจเวชสำอาง ที่เติบโตอย่างตอเนื่อง และสอดรับกับ กระแสสังคมของคนรักษ์ผิวพรรณ ทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ ก็ล้วนนิยมเดินเข้าไปปรึกษาศูนย์ความงาม และ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ หรือแม้แต่คลินิกความงามต้องเร่งขยายสาขากันโดยถ้วนหน้า

ศาสตร์แห่งความงาม เริ่มตั้งแต่การดูแลผิวพรรณมีการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลผิวมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเห็นผลและการให้ประสิทธิผลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ด้วยกลไกของธรรมชาติอันแยบยล ทำให้ไม่อาจละทิ้งเรื่องของธรรมชาติของตัวเรา ลักษณะผิวและพฤติกรรมเฉพาะบุคคล ทำให้ เอจจิ้ง-ยังเกอร์ ติดต่อไปยังสถาบันเวชศาสตร์ชะลอวัยแห่งประเทศไทย เพื่อขอคำแนะนำดีๆที่ถูกต้อง ซึ่งเราได้รับเกียรต์จาก ดร.สุรชัย เลี่ยมทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสวยความงาม และ ยังเป็นเลขานุการของสถาบันเวชศาสตร์ชะลอวัยแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านมีคำแนะนำดีๆ ดังนี้

“เรื่องความสวยความงาม เป็นเรื่องของ “ศาสตร์” และ “ศิลป์” เป็นการผสมผสานระหว่าง “ศาสตร์” ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และ “ศิลป์” การดูแลและบำรุงความงามของตนเอง”

อะไรคือศาสตร์ อะไรคือศิลป์
“ศาสตร์” คือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ฮิตสุดๆของวันนี้ ได้แก่ เลเซอร์เพื่อความงาม เมโสเทอราฟี่เพื่อการยกกระชับ ดร.สุรชัย อธิบายว่า “คนเราอายุเกิน 25 ปี คอลลาเจนในตัวของเราก็จะเริ่มลดลงที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงหย่อนคล้อง เกิดริ้วรอย “ศาสตร์” ความเชี่ยวชาญของแพทย์ จึงเข้ามาช่วยตรงจุดนี้ช่วยเสริมให้ช่วยสร้างผิวหนังใหม่ขึ้นมา” ดร. สุรชัยกล่าวเพิ่มเติม “แต่มีข้อเสีย หรือ ข้อจำกัด คือ ถ้าใช้โดยผู้ไม่ชำนาญ อาจเกิดการแทรกซ้อน โดยเฉพาะในช่วงระหว่างการรักษา ถ้าดูแลไม่ถูกต้องแผลอาจติดเชื้อได้ครับ”

“ศิลป์” การดูแลและบำรุงความงามของตนเอง
ศิลปะการดูแลผิว (สวย) ความงามเป็นการดูแลรักษาในแบบเฉพาะตัวบุคคล “แนวคิดของแพทย์แผนไทย จึงมีหลักของธาตุ4 ดร. สุรชัยอธิบายต่อ “ในสหรัฐเรียก Aesthetic แปลตามคำศัพท์ ก็คือ สุนทรียศาสตร์แห่งความงาม เช่น คนไข้เป็นสิว เราใช้เลเซอร์รักษาสิวกันเลยไม่ได้ แต่ต้องดูปัญหาพื้นฐาน วิเคราะห์ผิวของคนไข้ก่อน อาจต้องปรับพื้นฐานผิวให้แข็งแรงก่อน แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญต้องมีการแนะนำคนไข้ให้เข้าใจผิวของตนเอง เพื่อให้คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ และ นี่คือ “ศิลปะ” ที่ทุกคนทำได้ด้วยตนเอง ดร. สุรชัยกล่าวทิ้งท้าย



เวชสำอาง คือ “ศาสตร์ผสานศิลป์”

เวชสำอางมี 3 กลุ่มหลักที่สำคัญ ได้แก่
กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว
กลุ่มบำรุงผิว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผิว เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดด

“ถ้าเราเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว และเราดูแลผิวของเราได้เร็วเท่าไหร่ ผิวของเราในอนาคตก็จะเสื่อมช้าลง เหมือนสาวไทยในวรรณคดีที่มักจะมีผิวพรรณสวยงาม”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว
ควรเลือกให้เหมาะกับผิวเรา และ พฤติกรรมของเรา เช่น ถ้าเราผิวหน้ามันมาก เราต้องเข้าใจก่อนว่า คนเรามี “เกราะ” คือ น้ำมันมาหล่อเลี้ยงปกป้องผิว ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแรงๆ ก็จะทำลายน้ำหล่อเลี้ยงเหล่านี้ เพื่อขจัดความมันบนใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์แบบแรงๆ ฟองเยอะๆอาจเป็นการทำลายตัวปกป้องผิว หรือ ถ้าเราชอบแต่งหน้า เราควรเลือกใช้ครีมล้างหน้า ตามด้วยเจลล้างหน้าชนิดอ่อนโยนต่อผิว หรือ สาวๆผิวมันง่าย ก็ควรเลือกชนิดเนื้อเจล ถ้าเลือกได้ควรเป็นเจลที่ผลิตจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิว อีกข้อที่ควรเข้าใจคือ หลักการในการบำรุงผิว คือ การให้ความชุ่มชื้นกับผิว



ข้อแนะนำข้อต่อมา คือ ใช้แล้วแพ้หรือไม่ ซึ่งเกิดได้ 2 แบบ คือ
1. ใช้แล้วแพ้ทันที ควรหยุดใช้ทันทีครับ อย่าเสียดายหรือคิดว่าเดี๋ยวชินก็จะดี
2. ใช้แล้วค่อยๆแพ้ อาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์เป็นเดือน เพราะฉะนั้นเวลาซื้อก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ พนักงานขายให้ดีเสียก่อน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผิว
“ครีมกันแดด” ให้เลือกตามสีผิว ผิวขาวเลือกครีมกันแดดชนิดค่า SPF เป็นค่าป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต 50 อัพ และต้องมีคำว่า PA+++ (Protection Grade of UVA) เป็นเครื่องบอกประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี เวลาชื้อกันแดดควรดูที่มีทั้ง SPF และ PA” ดร. สุรชัยกล่าวแนะนำทิ้งท้ายก่อนจาก

กุญแจไขรหัสความงาม ด้วยคอนเซปต์ “ศาสตร์ผสานศิลป์” เป็นการผสมผสานการรักษาระหว่างศาสตร์ทางการแพทย์ และศิลป์แห่งการดูแลตนเอง เพื่อความงามสมบูรณ์แบบ เหมือนการมีของหยินต้องมีหยาง

พบกันใหม่คราวหน้า สวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น